537 Bangkhuntien-Chaytalay Road, Samaedam, Bangkok, Thailand, 10150 +66 2892 0286-9 contact@wangpack.com
img

ถุงร้อนหรือถุงเย็น เลือกอย่างไรให้เหมาะสม

img

ถุงร้อนหรือถุงเย็น เลือกอย่างไรให้เหมาะสม

ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าถุงพลาสติกเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเดินไปที่ร้านขายถุงก็จะพบว่า มีถุงมากมายหลายแบบให้เลือก ทำให้เกิดความสับสนว่าแล้วจะเลือกใช้อย่างไรบ้าง แต่ละแบบเหมือนกันหรือไม่ โดยเฉพาะถุงที่ใช้สำหรับใส่อาหารที่ต้องคำนึงถึงความสะอาดและความปลอดภัยด้วย ดังนั้นเรามารู้วิธีเลือกใช้ถุงพลาสติกให้เหมาะกับการใช้งาน โดยเริ่มจาก “ถุงร้อน” และ “ถุงเย็น”

ถุงเย็น 
ถ้าอ่านที่ฉลากจะเห็นคำว่า LDPE ชื่อเต็มคือ Low Density Polyethylene ซึ่งก็คือ พลาสติกพอลิเอทิลีนแบบความหนาแน่นต่ำ พลาสติกชนิดนี้จะใสแต่ไม่มีความมันวาว นิ่ม เหนียวและยืดหยุ่น ทนอุณหภูมิต่ำได้เป็นอย่างดี เราจึงเรียก ถุงที่ผลิตจากพลาสติกชนิดนี้ว่า ถุงเย็น โดยถุงเย็นจะสามารถทนอุณหภูมิต่ำได้มากถึง -40 องศาเซลเซียส ทำให้ถุงชนิดนี้ไม่กรอบและแตกเมื่อแช่ในช่องแช่แข็งปกติทั่วไป (ประมาณ – 18 องศาเซลเซียส) แต่ทนความร้อนได้เพียง 80 องศาเซลเซียสเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถใส่ของที่ร้อนแบบเดือดๆ หรือของที่ทอดใหม่ๆได้ ถ้าใส่จะทำให้พลาสติกเสียรูปและเป็นอันตรายได้

ถุงร้อน มี 2 แบบ คือ ถุงร้อนแบบใส และถุงร้อนแบบขุ่น 
1.ถุงร้อนแบบใส
ถ้าอ่านที่ฉลากจะเห็นคำว่า PP ชื่อเต็มคือ Polypropylene ลักษณะ ใสเหมือนแก้ว มันวาว พลาสติกชนิดนี้ทนความร้อนได้สูงมากกว่า 100 องศาเซลเซียส คือสามารถใส่น้ำเดือด หรืออาหารที่ร้อนจัดได้อย่างดี แต่ถุงชนิดนี้ไม่สามารถทนความเย็นได้ เมื่อแช่ช่องแข็งจะกรอบเปราะแตกได้ง่าย

2.ถุงร้อนแบบขุ่น 
ในท้องตลาดจะเรียกทั้ง ถุงไฮเดน หรือถุงขุ่น ถ้าอ่านที่ฉลากจะเห็นคำว่า HDPE ชื่อเต็มคือ high density polyethylene เป็นพลาสติก พอลิเอทิลีนแบบความหนาแน่นสูง พลาสติกชนิดนี้จะ สีขุ่นขาว ไม่มีความมันวาว ถุงชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจาก แข็งแรง น้ำหนักเบาและมีราคาถูก สามารถใช้งานได้หลากหลาย เพราะสามารถทนความร้อนได้ถึง 100 องศาเซลเซียส และทนความเย็นได้ถึง 0 องศาเซลเซียส จึงสามารถใส่อาหารที่ร้อนและเย็นได้ แต่ก็มีข้อควรระวังคือ ไม่สามารถใส่อาหารที่ร้อนถึงจุดเดือดได้และแช่ในช่องแข็งไม่ได้จะกรอบและแตกง่าย

docx file PDF